พร้อมไขทุกข้อสงสัย! SB Clinic ขอนแก่น รวบรวม คำถามยอดฮิต ที่คนอยากสวยค้นหาใน Google มาตอบแบบจัดเต็ม! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจมูก ปาก คาง หรือปรับรูปหน้า เรามีคำตอบให้คุณกระจ่างทุกประเด็น!
เรื่อง
ทำจมูก (เสริมจมูก): สวยเป๊ะ ปลอดภัย มั่นใจทุกมุม!
การเสริมจมูกถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า เพิ่มความโด่งได้รูป หรือแก้ไขปัญหาจมูกเดิมที่ไม่สมบูรณ์ การทำจมูกไม่ใช่แค่การเสริมให้สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสมดุลของใบหน้าและเพิ่มเสน่ห์ในแบบที่คุณต้องการได้อย่างแท้จริง พร้อมคำถามที่พบบ่อย เรื่องของเสริมจมูก
1. งดวิตามินและยาบางชนิด: ควรงดวิตามินและยาแก้ปวด/แก้อักเสบที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนทำ
2. งดแอลกอฮอล์: ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน ก่อนผ่าตัด
3. แจ้งโรคประจำตัว: หากคุณมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาอะไร ต้องแจ้งคุณหมอให้ทราบโดยละเอียดก่อนทำทุกครั้งนะคะ ที่ SB Clinic เราใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคุณค่ะ
1. ประคบเย็น: ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หลังทำจมูก ให้ประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ
2. นอนยกศีรษะสูง: การนอนหนุนหมอนสูงจะช่วยลดอาการบวมได้ดี
3. งดของแสลง: หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เผ็ดจัด อาหารหมักดอง และแอลกอฮอล์
4. พบแพทย์: หากอาการบวมช้ำรุนแรงผิดปกติ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบมาพบคุณหมอที่ SB Clinic ทันทีนะคะ
ดึงหน้า: ย้อนวัย หน้ากระชับ ไร้ริ้วรอย!
อยากรู้ไหมว่าทำไมหลายคนถึงเลือก “ดึงหน้า” เป็นตัวช่วยสำคัญในการย้อนวัยให้ใบหน้ากลับมาเป๊ะปังอีกครั้ง? เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้าของเราเริ่มหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว ริ้วรอยก็มาหาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งถ้าไม่รีบจัดการ ก็อาจทำให้ใบหน้าดูแก่เกินวัยไปไกล
1. ร้อยไหม: ใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับใบหน้าให้ตึงขึ้นทันที เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยไม่มาก
2. ฉีดฟิลเลอร์: ใช้เติมเต็มในจุดที่ยุบตัว ทำให้ใบหน้าดูเต็มขึ้นและช่วยพยุงผิวให้กระชับ
3. เลเซอร์/เครื่องยกกระชับ: เช่น Ulthera, Thermage หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้พลังงานกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อให้ผิวยกกระชับและลดริ้วรอย
เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้จริง โดยไม่ต้องพักฟื้นนานค่ะ คุณหมอจะประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ
- การร้อยไหม หรือ เลเซอร์ยกกระชับ มักเหมาะกับวัย 30-50 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ส่วนการ ดึงหน้าแบบผ่าตัด จะเหมาะกับวัยที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก หรือมีริ้วรอยลึกชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นช่วงวัย 45 ปีขึ้นไป ค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความหย่อนคล้อยของแต่ละบุคคล คุณหมอที่ SB Clinic จะประเมินให้เหมาะสมกับคุณที่สุดค่ะ
- แบบไม่ผ่าตัด: เช่น ร้อยไหม หรือเลเซอร์ยกกระชับ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง
- แบบผ่าตัด: ให้ผลลัพธ์ที่ ถาวรและชัดเจนกว่า แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงตามวัยได้ค่ะ
ที่ SB Clinic เราเน้นการออกแบบและทำหัตถการให้ผลลัพธ์ดู อ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ ที่สุด ไม่ใช่แค่หน้าตึงอย่างเดียว แต่ต้องสวยสมวัยค่ะ
1. ประคบเย็น: ในช่วงแรกเพื่อลดอาการบวมช้ำ
2. งดกิจกรรมหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าขยับมากเกินไป
3. งดแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่: สิ่งเหล่านี้จะชะลอการฟื้นตัวและสมานแผล
4. ทานอาหารที่ช่วยสมานแผล: เช่น อาหารที่มีโปรตีนสูง วิตามินซี
ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำ: และมาพบคุณหมอตามนัดเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิดนะคะ
ทำคาง หน้าเรียว กรอบหน้าชัด สวยเป๊ะทุกองศา!
ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวกระชับ กรอบหน้าชัดเจน และเปลี่ยนลุคให้ดูสวยเป๊ะในทุกมุม “ทำคาง” คือหนึ่งในตัวช่วยที่ไม่ควรมองข้าม! เพราะคางถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยกำหนดรูปหน้า และเมื่อมีสัดส่วนที่สมดุล ก็ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ มีเสน่ห์ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
- เสริมคางด้วยซิลิโคน: เป็นการผ่าตัดใส่ซิลิโคนเข้าไปที่คาง ให้ผลลัพธ์ที่ ถาวร และสามารถปรับรูปทรงคางให้เปลี่ยนไปได้ชัดเจนตามที่คุณต้องการ เหมาะกับคนอยากได้คางที่เป๊ะปังแบบคงทน
- ฉีดฟิลเลอร์คาง: เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่คาง เจ็บน้อย ทำได้รวดเร็ว แต่ผลลัพธ์จะ อยู่ได้ชั่วคราว ประมาณ 6-12 เดือน เหมาะกับคนที่อยากลองทรงคางก่อน หรือต้องการปรับแต่งคางเพียงเล็กน้อยค่ะ
- เสริมคางด้วยซิลิโคน: เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขรูปคางอย่าง ถาวร และต้องการให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เช่น คนที่คางสั้น คางถอย หรือคางบุ๋ม
- ฉีดฟิลเลอร์คาง: เหมาะกับคนที่ต้องการ ปรับแต่งคางเพียงเล็กน้อย อยากลองทรงคางก่อนการผ่าตัด หรือต้องการเติมเต็มคางที่ไม่ได้มีปัญหามากค่ะ
1. การติดเชื้อ: หากดูแลแผลไม่ดีหลังทำ
2. ซิลิโคนเคลื่อน/เบี้ยว: อาจเกิดขึ้นได้หากมีการกระแทกแรงๆ หรือเทคนิคการวางซิลิโคนไม่เหมาะสม
3. อาการบวมช้ำ: เป็นอาการปกติหลังทำ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้น
4. แผลเป็น: หากมีการเปิดแผลนอกช่องปาก แต่อยู่ในตำแหน่งที่สังเกตยาก และจะจางลงเมื่อเวลาผ่านไป
ที่ SB Clinic เราเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและการดูแลหลังทำ เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ให้เหลือน้อยที่สุดค่ะ
1. ประคบเย็น: ในช่วงแรกเพื่อลดอาการบวมช้ำ
2. งดกิจกรรมหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าขยับมากเกินไป
3. งดแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่: สิ่งเหล่านี้จะชะลอการฟื้นตัวและสมานแผล
4. ทานอาหารที่ช่วยสมานแผล: เช่น อาหารที่มีโปรตีนสูง วิตามินซี
ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำ: และมาพบคุณหมอตามนัดเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิดนะคะ
ฉีดปาก (ฟิลเลอร์ปาก) ปากอวบอิ่ม สวยสะกดใจ!
ริมฝีปากที่อวบอิ่ม สวยได้รูป ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคนี้ เพราะเทรนด์ “ปากอวบอิ่ม” ที่ดูสุขภาพดีและเซ็กซี่กำลังมาแรงสุด ๆ โดยเฉพาะกับสาว ๆ ที่ชอบลุคธรรมชาติแต่โดดเด่น หรือแม้แต่สายฝอที่อยากได้ปากคมชัดเป๊ะทุกมุม ฟิลเลอร์ปาก คือคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกอย่าง!
1. ประคบเย็น: ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม
2. งดสัมผัสแรงๆ: หลีกเลี่ยงการนวด บีบ หรือกดบริเวณริมฝีปาก
3. งดดื่มแอลกอฮอล์: และงดออกกำลังกายหนักๆ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
4. งดอาหารรสจัดและเครื่องดื่มร้อนจัด: เพื่อป้องกันการระคายเคือง
5. ดื่มน้ำเยอะๆ: ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูและอยู่ได้นานขึ้นค่ะ
ทำปากกระจับ: ปากสวยได้รูป สไตล์คิ้วท์ ๆ!
อยากมีริมฝีปากที่ดูคมชัด ได้รูปแบบ “ปากกระจับ” ที่กำลังฮิตในหมู่สาว ๆ และดาราไทยกันไหม? ปากกระจับไม่ได้แค่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า แต่ยังช่วยสร้างลุคที่สดใส ดูน่ารักคิ้วท์ ๆ แบบธรรมชาติ ที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต้องเหลียวมอง
- ศัลยกรรมปากกระจับ: คือการ ตัดแต่งเนื้อริมฝีปาก ให้ได้รูปทรงกระจับที่ชัดเจน เป็นผลลัพธ์ที่ ถาวร เหมาะกับคนที่อยากได้ทรงปากกระจับที่ชัดเป๊ะ และไม่อยากเติมบ่อยๆ
- ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ: เป็นการ เติมฟิลเลอร์ เพื่อสร้างรูปทรงกระจับชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน เหมาะกับคนที่อยากลองทรง หรือต้องการปรับแต่งเล็กน้อย
- เหมาะกับ: คนที่มีริมฝีปากค่อนข้างบาง หรือเรียบ ไม่มีส่วนโค้งเว้าชัดเจน และต้องการเพิ่มความคมชัดของรูปปากให้ดูมีกระจับ
- ข้อจำกัด: สำหรับคนที่มีริมฝีปากหนามากๆ อาจต้องให้คุณหมอประเมินอย่างละเอียดก่อนว่าสามารถทำทรงกระจับได้หรือไม่ หรืออาจต้องใช้เทคนิคอื่นร่วมด้วยค่ะ
1. รักษาความสะอาด: บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาบ้วนปากที่แพทย์แนะนำหลังมื้ออาหารทุกครั้ง
2. งดของร้อนและของแสลง: หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ดจัด อาหารแข็งที่ต้องเคี้ยวเยอะๆ และเครื่องดื่มร้อนๆ รวมถึงแอลกอฮอล์
3. ประคบเย็น: ในช่วงแรกเพื่อลดอาการบวม
4. ทานยาตามคำแนะนำ: ของคุณหมออย่างเคร่งครัด
5. มาพบแพทย์ตามนัด: เพื่อติดตามผลและตัดไหมค่ะ
แก้จมูก: จบทุกปัญหา คืนทรงสวยเป๊ะ!
เคยไหม? ทำจมูกมาแล้วแต่กลับเจอปัญหาจมูกเบี้ยว ปลายบาง ซิลิโคนทะลุ หรือทรงจมูกไม่เป็นอย่างที่หวัง ทำให้หมดความมั่นใจและไม่กล้าส่องกระจก อย่าเพิ่งท้อ เพราะ “แก้จมูก” คือทางรอดที่ช่วยคืนความสวยและความมั่นใจให้คุณได้!
1. จมูกเบี้ยว เอียง: ซิลิโคนเคลื่อน หรือไม่ได้รูปทรงที่ต้องการ
2. ปลายจมูกบาง แดง หรือมีแนวโน้มทะลุ: อันตรายมาก ควรรีบแก้ด่วน!
3. จมูกแข็งตึง มีพังผืด: ทำให้จมูกไม่เป็นธรรมชาติ หรือเจ็บปวด
4. ซิลิโคนลอย: คลำแล้วรู้สึกซิลิโคนขยับ
5. ทรงจมูกไม่สวย ไม่โด่งพอ หรือไม่เข้ากับใบหน้า: ไม่ถูกใจ ไม่มั่นใจ
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาปรึกษาคุณหมอที่ SB Clinic นะคะ
1. งดสัมผัสแรงๆ ที่จมูก: หลีกเลี่ยงการชน กระแทก หรือบิดจมูก
2. งดของแสลง: งดแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง และอาหารทะเล (สำหรับบางราย)
3. ทานยาและทำความสะอาดแผล: ตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด
4. มาตรวจตามนัด: พบคุณหมอเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิดเสมอ หากมีข้อสงสัยใดๆ ให้รีบปรึกษาคุณหมอทันทีนะคะ
ตาสองชั้น: ดวงตากลมโต สวยเป๊ะ เสริมเสน่ห์!
ดวงตา คือ “หน้าต่างของหัวใจ” ที่ใคร ๆ ก็อยากให้ดูสดใส มีชีวิตชีวาและเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ แต่บางคนเกิดมาพร้อมชั้นตาหลบใน ตาชั้นเดียว หรือชั้นตาไม่เท่ากัน ทำให้ดูง่วงเหงา ไม่สดใส และแต่งหน้ายาก แก้ได้ง่าย ๆ ด้วย “ทำตาสองชั้น” ที่จะเปลี่ยนดวงตาคุณให้สวยเป๊ะ กลมโต ดูมีเสน่ห์ในทันที
- กรีดสั้น: เหมาะสำหรับคนที่มีชั้นตาอยู่แล้วแต่ไม่ชัดเจน หรือต้องการเพิ่มความคมชัดของชั้นตาเล็กน้อย แผลจะเล็ก และฟื้นตัวเร็วกว่า
- กรีดยาว: เหมาะสำหรับคนที่มี หนังตาตกมาก ชั้นตาหลบใน มีไขมันสะสมเยอะ หรือต้องการแก้ไขกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง คุณหมอจะสามารถแก้ไขโครงสร้างตาได้ละเอียดกว่า
คุณหมอที่ SB Clinic จะประเมินและแนะนำเทคนิคที่เหมาะสมกับรูปตาและปัญหาของคุณค่ะ
1. ประคบเย็น: ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม
2. นอนยกศีรษะสูง: ช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดี
3. งดแต่งหน้าและถูตา: งดการแต่งหน้าและหลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือถูตาแรงๆ ประมาณ 1 สัปดาห์
4. ทำความสะอาดแผล: ตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด และมาพบคุณหมอตามนัดเพื่อตัดไหมนะคะ
- ข้อดี: แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว รอยแผลเป็นจางไว
- ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับคนที่มีหนังตาตกมาก มีไขมันเปลือกตาเยอะ หรือมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อตา
คุณหมอจะประเมินความเหมาะสมของเทคนิคนี้กับคุณค่ะ
พังผืดที่เกิดจากการทำจมูก: จบปัญหาจมูกแข็ง เบี้ยว!
การเสริมจมูกให้สวยเป๊ะ เป็นฝันของใครหลายคน แต่บางครั้งหลังทำจมูกกลับเจอปัญหาที่หลายคนกลัวสุด ๆ นั่นคือ “พังผืด” ที่ทำให้จมูกแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ หรือแม้แต่เบี้ยวผิดรูป ซึ่งถ้าปล่อยไว้ไม่รีบแก้ไข อาจทำให้เสียโฉมและหมดความมั่นใจได้เลย
- จมูกรัดแกนปกติ: หลังทำจมูกในช่วงแรก จมูกจะค่อยๆ รัดตัวและเข้าที่ อาจรู้สึกตึงๆ บ้าง แต่จะค่อยๆ นิ่มลงและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- พังผืดจมูก: จมูกจะรู้สึก แข็งตึงผิดปกติ อย่างชัดเจน คลำแล้วไม่ยืดหยุ่น อาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย บางครั้งจะเห็นว่า จมูกเบี้ยว เอียง หรือปลายจมูกผิดรูป ไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดค่ะ หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาพบคุณหมอเพื่อประเมินค่ะ
1. เลือกคลินิกและแพทย์ที่เชี่ยวชาญ: สำคัญที่สุด เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน
2. ดูแลหลังทำอย่างเคร่งครัด: ประคบเย็น งดสัมผัสจมูกแรงๆ งดแอลกอฮอล์ และงดอาหารแสลง
3. มาพบแพทย์ตามนัด: เพื่อติดตามอาการและให้คุณหมอได้ประเมินผลอย่างใกล้ชิด
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดได้มากค่ะ
แก้คาง: เปลี่ยนคางพัง ให้กลับมาปัง!
เคยไหม? ที่รู้สึกว่าคางที่เคยเสริมมาดูผิดรูป เบี้ยว หรือไม่เข้ากับใบหน้าเหมือนตอนแรก ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในภาพลักษณ์ตัวเอง? ปัญหานี้แก้ได้! เพราะ “แก้คาง” คือทางเลือกสำคัญที่จะช่วยปรับเปลี่ยนคางที่ผิดรูป หรือพัง ให้กลับมาสวย เรียว เป๊ะ เหมือนเดิม หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ!
1. คางเบี้ยว เอียง: ไม่สมมาตรกับใบหน้า
2. ซิลิโคนลอย/เคลื่อน: คลำแล้วรู้สึกซิลิโคนขยับ
3. คางดูยาวหรือแหลมเกินไป: ดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เข้ากับรูปหน้า
4. มีอาการเจ็บปวด หรือตึงผิดปกติ: บริเวณคาง
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินปัญหาและแก้ไขนะคะ
- การผ่าตัดแก้ไขคาง: เป็นการถอดซิลิโคนเดิมออก หรือปรับโครงสร้างคางใหม่ ให้ผลลัพธ์ที่ ถาวร และสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีกว่า
- การฉีดฟิลเลอร์: เป็นการแก้ไขแบบ ชั่วคราว เหมาะกับการปรับแต่งคางเล็กน้อย หรือเติมเต็มส่วนที่บุ๋มเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาซิลิโคนลอยหรือคางเบี้ยวมากๆ ได้ค่ะ
ปรับรูปหน้า: หน้าเรียว กรอบหน้าชัด สวยเป๊ะในแบบคุณ!
ใคร ๆ ก็อยากมีใบหน้าที่ดูเรียว กระชับ และกรอบหน้าชัดเจน แต่ด้วยกรรมพันธุ์หรืออายุที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้รูปหน้าดูบวม อวบ หรือไม่มีมิติ การปรับรูปหน้าจึงกลายเป็นทางเลือกยอดฮิตที่ช่วยคืนความมั่นใจให้กับคุณได้ในเวลาอันรวดเร็ว
1. ฉีดโบท็อกซ์: เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น หรือใช้ลิฟต์กรอบหน้าให้กระชับ
2. ฉีดฟิลเลอร์: เติมเต็มในจุดที่ยุบตัว เช่น ขมับ แก้มตอบ หรือเสริมคางให้ใบหน้าดูมีมิติและสมดุล
3. ร้อยไหม: ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้นทันที
4. เทคโนโลยีเลเซอร์/เครื่องยกกระชับ: เช่น Ulthera, Thermage ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย
แต่ละวิธีมีข้อดีและเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกัน คุณหมอจะแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ
- โบท็อกซ์: อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน
- ฟิลเลอร์: อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด
- ร้อยไหม: อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
- เลเซอร์/เครื่องยกกระชับ: ผลลัพธ์จะค่อยๆ เห็นชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
เมื่อผลลัพธ์เริ่มลดลง คุณสามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำซ้ำได้ตามความเหมาะสมค่ะ
1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน: และแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย.: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารที่ใช้เป็นของแท้และปลอดภัย
3. ดูแลตัวเองหลังทำ: ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม: สำหรับคนที่กรามใหญ่ ต้องการหน้าเรียว
- ฉีดฟิลเลอร์: เพื่อเติมเต็มใบหน้าส่วนที่บกพร่อง เช่น ขมับตอบ แก้มตอบ หรือปรับคางให้เรียวขึ้น
- ร้อยไหม: เพื่อยกกระชับใบหน้าและกรอบหน้าให้ชัดเจน
- ทำเลเซอร์/เครื่องยกกระชับ: เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิว
คุณหมอจะช่วยประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะกับปัญหาและความต้องการของคุณที่สุดค่ะ
ทำจมูกผ่อน 0%: สวยได้ไม่ต้องรอ!
- ข้อดี: ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ทำให้คุณสามารถทำจมูกได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว
- ข้อเสีย: คุณอาจต้องมีบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ และต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่คลินิกและธนาคารกำหนดค่ะ
1. ความน่าเชื่อถือของคลินิกและแพทย์: มีใบอนุญาตถูกต้อง แพทย์มีประสบการณ์ รีวิวดี
2. คุณภาพของวัสดุที่ใช้: เช่น ซิลิโคนต้องได้มาตรฐาน อย.
3. รายละเอียดโปรโมชั่น: อ่านเงื่อนไขการผ่อนชำระให้ละเอียด รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุม
4. บริการหลังทำ: มีการดูแลติดตามผลหลังทำที่ดีหรือไม่
อย่าให้โปรโมชั่นมาบดบังคุณภาพและความปลอดภัยนะคะ ที่ SB Clinic เราให้ความสำคัญทั้งสองอย่างเสมอค่ะ