เปลี่ยนหน้ากลมเป็นหน้าวี ด้วยเทคนิคแก้คางตัด คางถอย! Sb Clinic ทำคาง ขอนแก่น
รู้ไหมว่ารูปหน้าของเราสามารถเปลี่ยนได้ ด้วยการปรับ “คาง” ให้สมดุลกับใบหน้า การ ทำคาง ขอนแก่น ไม่ใช่แค่การใส่ซิลิโคนให้ยาวขึ้น แต่เป็นศาสตร์ที่ต้องเข้าใจโครงสร้างใบหน้าอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับปัญหายอดฮิตอย่างคางถอย คางตัด หรือคางสั้น ซึ่งหากใช้เทคนิคไม่ถูกต้อง อาจทำให้ใบหน้าเสียสมดุล ดูแข็ง หรือขาดความละมุนได้
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเทคนิคเฉพาะที่ศัลยแพทย์ใช้ในการ “แก้คางถอย คางตัด” เพื่อให้ใบหน้าดูวีเชฟละมุน เป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแต่ละวิธีอย่างละเอียด
วิเคราะห์ปัญหาคางแบบลึก – ทำไมคางถึงมีผลกับรูปหน้า?
โครงหน้ากับแนว E-Line
E-Line หรือ Esthetic Line เป็นเส้นสมมุติที่ลากจากปลายจมูกไปถึงปลายคาง ซึ่งใช้ประเมินความกลมกลืนของใบหน้าในแนวข้าง (profile) ถ้าคางอยู่ลึกกว่าหรือเลยเส้น E-Line มากเกินไป จะทำให้ใบหน้าดูผิดสัดส่วน โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพด้านข้างหรือวิดีโอคอล
ในอุดมคติของสัดส่วนใบหน้าแบบคลาสสิก คางควรอยู่ในแนวเดียวกับปลายจมูก หรือเลยออกมานิด ๆ เพื่อสร้างมิติของใบหน้าที่สมดุล ซึ่ง E-Line จึงกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการวางแผนการเสริมคาง ขอนแก่น หรือการปรับรูปหน้าให้ดูละมุนเป็นธรรมชาติ
ปัญหาคางแต่ละแบบ
- คางถอย (Retrogenia): ลักษณะของคางที่ร่นเข้าไปด้านในกว่าปกติ ทำให้หน้าดูสั้น หน้าท่อนล่างดูทู่ ขาดความคมชัด โดยเฉพาะเมื่อมองด้านข้าง อาจทำให้คอดูตัน และขาดมิติภาพรวมของใบหน้า
- คางตัด (Blunt Chin): เป็นคางที่ไม่มีความโค้งปลาย ดูแข็ง หรือเหมือนมีขอบตัดตรงบริเวณปลายคาง ทำให้รูปหน้าดูดุดันและไม่อ่อนโยน แม้ว่าจะมีโครงหน้าสวยในส่วนอื่นแล้วก็ตาม
- คางสั้น (Short Chin): คือคางที่มีความยาวน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับสัดส่วนใบหน้าท่อนบนและกลาง ส่งผลให้ใบหน้าดูกลม ไม่มีความเรียวยาวตามแนว V-Shape โดยเฉพาะเวลาเซลฟี่หน้าตรง จะยิ่งเห็นว่าขาดความสมดุล
เทคนิคแก้คางที่ศัลยแพทย์มืออาชีพใช้
เทคนิคเลือกทรงซิลิโคนให้เหมาะกับใบหน้า
- ใช้โมเดลจำลองใบหน้าเพื่อเลือกทรงซิลิโคนให้สอดคล้องกับโครงหน้า
- มีทั้งแบบทรงธรรมชาติ (Anatomic) ทรงหยดน้ำ (Teardrop) และทรงวี (V-line implant)
- วางซิลิโคนในแนวแกนที่สอดคล้องกับแนว E-line เพื่อให้ใบหน้าได้สมดุลแบบมืออาชีพ
เทคนิคซ่อนแผล – ลดรอยแผลหลังทำ
- ใช้แผลผ่าตัดด้านในช่องปาก ไม่ทิ้งรอยบนผิวหนังภายนอก
- เย็บแผลด้วยไหมละลายเฉพาะทาง ลดอาการบวมและช่วยให้หายเร็วขึ้น
เทคนิคการเลื่อนกระดูก (Genioplasty)
- สำหรับผู้ที่มีคางถอยมาก แพทย์อาจแนะนำการเลื่อนกระดูกคาง โดยตัดกระดูกคางแล้วขยับมาด้านหน้า
- เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการใส่ซิลิโคน และต้องการผลลัพธ์ที่ถาวรจากโครงสร้างจริง
—- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —-
เทคนิคเปรียบเทียบ – ทำคาง VS ฟิลเลอร์คาง
ทำคางถาวรด้วยซิลิโคน
การทำคางด้วยซิลิโคนเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมที่ให้ผลลัพธ์ถาวร ซิลิโคนที่ใช้จะถูกออกแบบให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล และถูกวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดเพื่อปรับสัดส่วนของคางให้รับกับจมูกและหน้าผาก
ข้อดี:
- ปรับรูปหน้าได้จริงจัง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาคางถอย คางตัด หรือคางสั้น
- ไม่ต้องเติมซ้ำบ่อยเหมือนฟิลเลอร์
- เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระยะยาว และเห็นผลทันทีหลังหายบวม
- สามารถเลือกทรง ความยาว และความโค้งของซิลิโคนได้เพื่อให้รับกับใบหน้า
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นการผ่าตัด ต้องพักฟื้นประมาณ 5–7 วัน
- ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สมดุล
ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าไปบริเวณคางเพื่อเพิ่มความยาวหรือปรับทรงคางแบบชั่วคราว มักใช้สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมผ่าตัด หรืออยากดูผลก่อนตัดสินใจทำถาวร
ข้อดี:
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ใช้เวลาทำน้อย (ประมาณ 15–30 นาที)
- เหมาะสำหรับคนที่อยากทดลองก่อนว่าทรงไหนเหมาะกับตัวเอง
- สามารถปรับทรงหรือสลายได้ หากไม่พอใจ
ข้อควรพิจารณา:
- อยู่ได้เพียง 6–12 เดือน ต้องเติมซ้ำเพื่อรักษาทรง
- ไม่สามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น คางถอย คางตัด ได้ชัดเจนเหมือนการผ่าตัด
- หากฉีดโดยผู้ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดการไหลหรือบวมผิดรูปได้
- เหมาะกับคนที่อยากทดลองก่อนทำศัลยกรรมจริง
- อยู่ได้ 6–12 เดือน ต้องเติมต่อเนื่อง และไม่สามารถยืดคางหรือเปลี่ยนแนวกระดูกได้
—- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —-
ขั้นตอนการทำคางที่ SB Clinic ขอนแก่น
SB Clinic ขอนแก่น ให้บริการ ทำคาง ขอนแก่น ด้วยมาตรฐานระดับคลินิกความงามชั้นนำ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ความเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ที่ตรงใจคนไข้ที่สุด ขั้นตอนทั้งหมดจะถูกดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมทีมงานที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจนถึงหลังพักฟื้น
1. ปรึกษาแพทย์วิเคราะห์รูปหน้าอย่างละเอียด
ก่อนการผ่าตัด แพทย์จะทำการวิเคราะห์ใบหน้าในทุกมิติ ทั้งโครงสร้าง ความสมดุลของสัดส่วน และจุดที่ควรปรับให้ดูดีขึ้น เพื่อเลือกทรงคางที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคางทรงวี ทรงธรรมชาติ หรือคางทรงสั้นรับกับใบหน้า พร้อมตอบคำถามของคนไข้ด้วยความจริงใจ เพื่อให้มั่นใจก่อนตัดสินใจ
2. ออกแบบทรงคางเฉพาะบุคคล
คลินิกจะมีแบบทรงคางและตัวอย่างเคสจริงให้เปรียบเทียบ พร้อมทดลองวางซิลิโคนกับใบหน้าคนไข้เพื่อดูภาพรวมก่อนทำจริง ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนว่า หลังทำจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร
3. การดูแลหลังผ่าตัด และนัดตรวจติดตาม
หลังจากผ่าตัด แพทย์จะนัดติดตามอาการในทุกเคส พร้อมให้คำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างละเอียด เช่น การประคบเย็น การรับประทานอาหาร และการล้างแผล พร้อมทีมแอดมินดูแลใกล้ชิดผ่านไลน์ตลอดช่วงพักฟื้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาสวยงามและปลอดภัย
—- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —- —-
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำคาง
ทำคางต้องงดน้ำงดอาหารก่อนหรือไม่?
หากเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหาร แต่หากเคสที่ต้องใช้ยาสลบ แพทย์จะแจ้งให้เตรียมตัวล่วงหน้าอย่างชัดเจน
ทำคางราคาเท่าไหร่? มีผ่อนได้ไหม?
โปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% – ผ่อนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการได้นานถึง 6-10 เดือน
หลังทำคางแล้วสามารถใส่แมสก์ได้ไหม?
สามารถใส่แมสก์ได้ แต่ควรเลือกแบบที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณคาง
คนมีปัญหาเหงือกหรือฟัน ทำคางได้ไหม?
ควรแจ้งแพทย์ก่อนหากมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ ฟันผุ หรือรากฟันอักเสบ เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อภายหลังได้ แพทย์จะแนะนำให้รักษาให้เรียบร้อยก่อนทำคาง
สามารถทำคางพร้อมกับศัลยกรรมจมูกได้ไหม?
ทำคางพร้อมกับ ทำจมูก สามารถทำพร้อมกันได้ในบางกรณี โดยแพทย์จะพิจารณาความพร้อมของร่างกายและแผนการผ่าตัดให้เหมาะสม เพื่อให้โครงหน้าสมดุลแบบองค์รวม
ซิลิโคนเสริมคางสามารถเคลื่อนหรือเบี้ยวได้ไหม?
หากวางผิดตำแหน่งหรือใช้ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน อาจมีโอกาสเบี้ยวหรือเคลื่อนได้ แต่ที่ SB Clinic ใช้เทคนิคยึดซิลิโคนแน่นกับเยื่อหุ้มกระดูก และเลือกวัสดุผ่าน อย. จึงลดความเสี่ยงลงอย่างมาก #ทำคางภาคอีสาน #ทำคางอุดร #ทำคางโคราช